รายงานสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019


โดย ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค  
ฉบับที่ 20 วันที่ 23 มกราคม 2563 เวลา 18.00 น. 

1. สถานการณ์ในต่างประเทศ

วันที่ 5 มกราคม 2563 สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานจานวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ทั้งสิ้น 59 ราย โดย 41 ราย มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ วันที่ 22 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยยืนยันทั้งสิ้น 258 ราย ซึ่งในจานวนนี้มีรายงานพบเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ 15 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 25 – 89 ปี มีไข้ ไอ แน่นหน้าอก และเหนื่อยหอบ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติเกี่ยวข้องกับ South China Seafood Wholesale Market มีบางรายที่ปฏิเสธการ เข้าตลาด นอกจากนี้ทางการประเทศจีนได้ประกาศว่าเชื้อนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ วันที่ 23 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเป็น 571 ราย ในเมืองอู่ฮั่น 371 ราย และในหลายเมืองของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ 200 ราย (กวางตุ้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจ้อเจียง ฉงชิ่ง เทียนจิน เสฉวน จียงซี เหอหนาน ซานตง ยูนนาน และหูหนาน เป็นต้น) มีอาการรุนแรง 95 ราย เสียชีวิต 17 ราย และมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 5,897 ราย

นอกจากนี้พบผู้ป่วยยืนยันนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ จานวน 6 ราย อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา มาเก๊า ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฮ่องกง รายละเอียดดังนี้

วันที่ 21 มกราคม 2563 ประเทศสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น

วันที่ 21 มกราคม 2563 เขตการปกครองพิเศษฮ่องกงพบผู้เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นเข้าได้กับเกณฑ์ทั้งหมด 118 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วย 81 ราย พบเชื้ออื่นที่ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในวันที่ 23 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย อายุ 56 ปี มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล

วันที่ 21 มกราคม 2563 เขตปกครองพิเศษมาเก๊า พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสาย พันธุ์ใหม่ 1 ราย เพศหญิง 52 ปี มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น

วันที่ 21 มกราคม 2563 ประเทศสิงคโปร์ พบผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 7 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 6 ราย

วันที่ 21 มกราคม 2563 ไต้หวัน พบผู้ป่วยเข้าได้กับเกณฑ์สงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 8 ราย โดยเป็นผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย

วันที่ 20 มกราคม 2563 สาธารณรัฐเกาหลีใต้ พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 1 ราย มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น

วันที่ 19 มกราคม 2563 ประเทศเนปาล พบผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และติดตามอาการผู้สัมผัสจานวน 29 ราย

วันที่ 16 มกราคม 2563 ประเทศเวียดนามรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 2 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ อยรู่ ะหว่างการติดตามผู้สัมผัส

วันที่ 15 มกราคม 2563 ประเทศญี่ปุ่นรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1 ราย เป็นชายอายุ 30 ปี เริ่มป่วย 3 มกราคม 2563 เข้ารับการรักษาในวันที่ 10 มกราคม 2563 หรือ 1 สัปดาห์ หลังจากกลับมาที่ญี่ปุ่น ด้วยอาการไข้ และไอ ปัจจุบันอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีรายงานการติดเชื้อ ระหว่างสมาชิกในครอบครัว แต่ยังไม่พบการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์


2. มาตรการในต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2563 ประเทศจีนเผยแพร่ genome ของเชื้อ“novel coronavirus 2019” หรือ “nCoV-2019” ลงใน GenBank® ต่อมาวันที่ 21 มกราคม 2563 ประเทศจีนมีมาตรการคัดกรองโรคที่สนามบิน สถานีรถไฟ และท่าเรือ วันที่ 23 มกราคม 2563 เพิ่มมาตรการลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยประกาศปิดเมือง มีการยกเลิกสายการบิน และรถไฟจากเมืองอู่ฮั่นไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมทั้งแนะนาให้ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังเมืองอู่ฮั่น และให้ประชาชนในเมืองอู่ฮั่นสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน

ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา เขตการปกครองพิเศษฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ใช้มาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ที่มีอาการไข้ร่วมกับอาการระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลัน และมีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น (Wuhan) มณฑลหูเป่ย (Hubei) สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ

วันที่ 15 มกราคม 2563 ไต้หวันออกประกาศให้โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ให้เป็น โรคติดเชื้อทางกฎหมายประเภทที่ 5 อยู่รวมกับโรคไข้เหลือง ไข้ลาสซา ไข้หวัดใหญ่ MERS และโรคติดเชื้อไวรัส มาร์บวร์ก และออกคาเตือนประชาชนเรื่องมาตรการการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ โดยวันที่ 22 มกราคม 2563 ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 3 เพิ่มมาตรการคัดกรองผู้เดินทาง ณ สนามบิน และท่าเรือ

วันที่ 16 มกราคม 2563 ประเทศญี่ปุ่นได้ขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบทุกราย ที่มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น จัดทามาตรการดูแลรักษาผู้ป่วย และติดตามผู้สัมผัส

วันที่ 18 มกราคม 2563 นักวิจัยจาก Imperial College London ประมาณการว่าจะมีประชาชนจาก เมืองอู่ฮั่นบินออกนอกประเทศ 3,300 คน ต่อวัน และคาดการณ์พบโรค 1 ราย ต่อประชากรอู่ฮั่น 600 ราย ที่เดิน ทางออกนอกประเทศ

วันที่ 21 มกราคม 2563 สหรัฐอเมริกาได้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองที่ 5 สนามบินหลักที่มีผู้เดินทาง มาจากอู่ฮั่น ได้แก่ ซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส แอตแลนตา และ ชิคาโก โดยยกระดับเป็น Immediate Health Risk พร้อมจัดตั้ง Emergency Response System พัฒนาแนวทางการจัดการโรค และการ ตรวจวินิจฉัยเพื่อค้นหาเชื้อไวรัส


3. สถานการณ์ภายในประเทศ

ตั้งแต่วันที่ 3 – 23 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรคได้ดาเนินการเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินใน เส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศ ยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานกระบี่ (เริ่มคัดกรองวันที่ 17 มกราคม 2563) จานวน 136 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง ทั้งสิ้น 21,374 ราย โดยในวันที่ 23 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยอาการเข้าได้ตามนิยามเพิ่มขึ้น จานวน 7 ราย ทาให้รวมพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้ตามนิยามทั้งหมด 53 ราย โดย 22 ราย คัดกรองได้ที่สนามบิน นอกจากนี้มีผู้ป่วยที่มีอาการเข้าตามนิยามไปรับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลเอกชน 20 ราย โรงพยาบาลรัฐ 8 ราย และสถาบันบาราศนราดูร 3 ราย และในจานวนนี้ได้พักรักษา ตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐ 10 ราย (นครปฐม กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต และสงขลา) สถาบันบาราศนราดูร 8 ราย และโรงพยาบาลเอกชน 2 ราย รวม 20 ราย ไม่พบผู้ป่วยอาการรุนแรง ผู้ป่วยอาการดีขึ้นและได้กลับบ้านแล้วจานวน 33 ราย พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ novel coronavirus 2019 จานวน 4 ราย ส่วนผู้ป่วยรายอื่นที่ทราบเชื้อที่เป็น สาเหตุ และได้รับการวินิจฉัยสุดท้าย ประกอบด้วย Influenza A 9 ราย, Influenza B 9 ราย, Influenza C 1 ราย, Adenovirus 1 ราย, Coronavirus OC43 1 ราย, Streptococcus pneumoniae 1 ราย, Bronchitis 3 ราย, Pharyngitis 2 ราย, Common cold 1 ราย, RSV infection 1 ราย, และรอผลตรวจวินิจฉัยทาง ห้องปฏิบัติการ 20 ราย


4. มาตรการในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะ ฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการ ทรัพยากร เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่มาจาก ต่างประเทศ โดยเน้นการคัดกรองไข้ ณ ช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยาน นานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ตและกระบี่ เพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล สนับสนุนการเตรียม ความพร้อมสาหรับรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยครอบคลุมระบบบริการสาธารณสุขทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนแหล่งท่องเที่ยว โดยบูรณาการการทางานร่วมกันของกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สานักงานตารวจแห่งชาติ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม และจัดทารายงานสถานการณ์ฉบับภาษาอังกฤษและใบความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคในฉบับ ภาษาต่างประเทศ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรคนอกจากนี้วันที่ 23 มกราคม 2563 ได้ยกระดับการ แจ้งเตือนโรคในผู้เดินทาง เป็นระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด


5.การสื่อสารความเสยี่งกับประชาชน

  • ●  โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ป้องกันได้โดยใช้หลักการป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ

  • ●  สามารถเดินทางไปประเทศจีนได้ แต่ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย

  • ●  ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ามูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปประเทศจีน

  • ●  หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิต และการสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือ

  • ●  หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้า และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นามือมาสัมผัสตา จมูก ปาก

    โดยไม่จาเป็น

  • ●  ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้า ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดิน

    หายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

  • ●  รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน

    สามารถดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ที่ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.html

    ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ในภาวะฉุกเฉิน
    กรณีโรคปอดอักเสบรุนแรงจากเชื้อไวรัส (Viral Pneumonia)
    กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 


ดาวน์โหลดไฟล์แนบ (GoogleDrive)